ไตปลาทูอยางดี มาพร้อมสูตร ขวดละ 20 บาท
ไตปลา (ภาคกลาง) หรือ พุงปลา (ภาคใต้) เป็นการถนอมอาหารแบบหมักดองชนิดหนึ่ง โดยใช้กระเพาะของปลา เช่น ปลาทู ปลาลัง ปลาดุก ปลาช่อน หรือปลาอื่นๆมาหมักกับเกลือ โดยนำขี้และดีออกจากกระเพาะก่อน หมักไว้ 10 -30 วันก็ใช้ได้ ไตปลาที่หมักได้ที่จะเหลวและมีมันไหลออกมา นำไปทำเป็นอาหารได้หลายชนิด เช่น ไตปลาที่เป็นเครื่องจิ้มคล้ายน้ำพริกของทางภาคกลาง หรือแกงพุงปลาที่เป็นอาหารที่มีชื่อเสียงของจังหวัดพัทลุง นอกจากนั้น ยังนำไตปลาไปผัดกับน้ำพริกแกง ใส่ปลาจิ้งจ้างและผัก เรียกไตปลาแห้ง
ไตปลาที่เป็นเครื่องจิ้มนี้เป็นที่มาของอาหารชาววังที่เรียกว่าแสร้งว่าหรือแสร้งว่าไตปลา ซึ่งเป็นการปรุงแบบเดียวกับน้ำพริกไตปลาเพียงแต่ตัดไตปลาที่มีกลิ่นเหม็นคาวออกไป ใส่เครื่องปรุงอื่นลงไปแทน เช่น กุ้ง แสร้งว่านี้ เป็นอาหารที่มีในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานของรัชกาลที่ 2
แกงไตปลา
แกงไตปลา หรือแกงพุงปลาเป็นแกงที่มีไตปลาเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ มีทั้งแบบที่ใสและไม่ใส่กะทิ แบบใส่กะทิเป็นที่นิยมในบางท้องที่ เช่นที่จังหวัดยะลา การแกงจะต้มกะทิแค่พอสุก ไม่แตกมัน น้ำพริกแกงประกอบด้วย พริกขี้หนูแห้ง เกลือ พริกไทยเม็ด ตะไคร้ ผิวมะกรูด กระเทียม ขมิ้น หอมแดง กะปิ
แกงไตปลาแบบชุมพรจะไม่ใส่ข่า กระชาย หอมแดง กระเทียมในน้ำพริกแกง แต่จะซอยละเอียดใส่ลงในแกง เรียกแกงแบบนี้ว่าแกงไตปลาเครื่องซอย
Cr: จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
..............
ส่วนผสม อาหารภาคใต้ แกงไตปลา(ดั้งเดิม)
ปลาย่างแกะเป็นชิ้น 1 ถ้วย
เครื่องแกงไตปลา 2 ช้อนโต๊ะ
ไตปลา 1 ถ้วย
กะปิปลา 1 ถ้วย
มะเขือเปราะ 2-3 ลูก
ฟักทองหั่นเป็นชิ้น 3-4 ชิ้น
มันเทศหั่นเป็นชิ้น 3-4 ชิ้น
ใบมะกรูดฉีก 2-3 ใบ
เกลือเล็กน้อย
ผงชูรสเล็กน้อย
น้ำเปล่า 3 ถ้วย
วิธีทำ อาหารภาคใต้ แกงไตปลา(ดั้งเดิม)
ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อตั้งไฟ รอจนน้ำเดือด ใส่กะปิปลาและไตปลาลงในกระชอนแล้วนำไปละลายกับน้ำเดือดในหม้อ เสร็จแล้วจึงใส่เครื่องแกงลงไปต้มสักครู่
ใส่ปลาย่าง มะเขือเปราะ ฟักทองและมันเทศลงไป ต้มจนผักสุก จึงชิมรสถ้าเค็มได้ที่แล้วก็ไม่ต้องเติมเกลือ ปรุงรสด้วยผงชูรสเล็กน้อย
เสร็จแล้วใส่